การกินการเคี้ยวอาหาร
การกินการเคี้ยวอาหาร

การกินเร็วเกินไปเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย
การกินเร็วหมายถึง การเคี้ยวไม่เพียงพอ เคี้ยวสองสามครั้ง แล้วกลืนทันที กินเร็ว. อาหารที่ไม่ได้เคี้ยว จะใช้เวลาในการย่อยนาน ทำให้ท้องอืด และมีแก๊ส โรคอ้วน กินเร็วเกินไป ร่างกายไม่รู้ว่าอาหารมาถึงแล้ว ทำให้เขาไม่สามารถหยุดหิวได้ ทำให้เรากินมากกว่า ที่เราอิ่ม กินแคลอรี่ มากกว่าที่ต้องการ เพิ่มความเสี่ยง ต่อโรคเบาหวาน การกินเร็วเกินไปจะทำให้คุณกินมากเกินไป ซึ่งเป็นปัจจัย เสี่ยงต่อโรคเบาหวาน โรคกรดไหลย้อน การกินเร็วเกินไป ทำให้กินมากกว่าที่อิ่ม เพิ่มความเสี่ยง เป็นโรคกรดไหลย้อน
ต้องเคี้ยวอาหาร กี่ครั้งถึงจะอร่อย จากข้อมูล ในบทความ ของสำนักงานส่งเสริมสุขภาพ สสส. นักโภชนาการบำบัดและผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร เพื่อสุขภาพ พบว่าการ เคี้ยวอาหาร อย่างเหมาะสม จะมากกว่าอาหาร อ่อนประมาณ 10 เท่า เช่น ข้าวหรือขนมปัง ในเวลาเดียวกัน ให้เคี้ยวเนื้อสัตว์ และผักประมาณ 20-30 ครั้ง เคี้ยวตามจำนวนครั้ง ที่เหมาะสม คุณสามารถลอง เคี้ยวก้านของคะน้า ฝรั่ง หรือแอปเปิ้ลประมาณ 10 ครั้ง แล้วใช้ลิ้นตรวจดู ว่าละเอียดเพียงพอหรือไม่ หากคุณยังคงรู้สึกแย่ ให้เคี้ยวให้บ่อยขึ้น คุณรู้ไหมว่า การไม่เคี้ยวอาหาร ให้ละเอียดอาจ ส่งผลเสีย ต่อร่างกายได้ ให้เรารอดูว่า จะส่งผลเสีย อะไรบ้าง
ผลกระทบต่อสมอง การเคี้ยวอาหาร ไม่ละเอียดอาจ ทำให้สมอง ควบคุมต่อมน้ำลายได้ ต่อมใต้เยื่อหุ้มสมองจะหลั่งฮอร์โมน ซึ่งมีส่วนช่วยในการ พัฒนาสมอง และสติปัญญา ผลต่อกระเพาะอาหาร การไม่เคี้ยวอาหาร ให้ละเอียดจะทำให้ กระเพาะของเรา รับภาระในการ ย่อยอาหารทั้งหมด โดยเฉพาะอาหาร ที่ย่อยยาก เช่นเดียวกับ เนื้อสัตว์ถ้าเราไม่เคี้ยวอย่าง ระมัดระวัง กระเพาะจะหลั่ง กรดออกมา เมื่อถึงกระเพาะ และการบีบอัด จะสูงกว่าปกติ ช่วยให้เราย่อยและทำให้มี อาการอาหาร ไม่ย่อยหากเราเคี้ยว อย่างระมัดระวัง ปริมาณอาหาร ที่เข้าสู่กระเพาะ จะมีน้อยมากและกรดในกระเพาะอาหาร จะย่อยได้ง่ายขึ้น ถ้าเราเคี้ยวอาหาร ให้ละเอียดจนนับ จำนวนเคี้ยวได้ มันจะส่งผลดี ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก

พบว่าอาการอาหารไม่ย่อย ที่คุณสามารถพบหลังรับประทานอาหาร และคุณอาจมีอาการอาหารไม่ย่อยไม่ง่าย จะเกิดผลตามมาอาการที่พบได้แก่
ท้องอืด แน่น อึดอัดไม่สบายตัว หรือจำเป็นต้องยืดเข็มขัดออก เพราะฉันรู้สึกอิ่ม มากปวดท้อง แน่นท้อง แน่นท้องและหายใจลำบากมีอาการ แสบร้อนในกระเพาะ คลื่นไส้อาเจียน กระสับกระส่าย อาการท้องอืด ที่กินเวลานาน หลายชั่วโมง และใช้เวลานานกว่าจะหาย ท้องอืดแสบร้อนกลางอก แน่นหน้าอก และแน่นหน้าอก
นอกจากนี้ การอดนอน ยังส่งผลต่อความหิวอีกด้วย การวิจัยพบว่าการอดนอนส่งผลต่อการหลั่งเกรลิน ซึ่งควบคุมความหิว ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนนี้ ออกมามากขึ้น ขณะเดียวกันระดับ การหลั่งเลปตินซึ่งเป็นฮอร์โมน ที่ควบคุมความอิ่มก็ลดลง
อีกทั้งยังมีความ หิวโหยมากกว่าปกติอีกด้วย นอกจากนี้ยังอาจเป็นอาการของสภาวะทางการแพทย์ต่าง ๆ เช่น ภาวะน้ำตาล ในเลือดต่ำหรือภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ อาการนี้ มักเกิดกับผู้ป่วย โรคเบาหวานที่ใช้อินซูลิน เพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด เมื่อน้ำตาลต่ำ อาจทำให้อยากอาหารเพิ่มขึ้น หิวมากขึ้นและเร็วขึ้น หรือคุณอาจรู้สึกวิงเวียนศีรษะได้ ความหิวอาจเป็นอาการของภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำได้เช่นกัน (Hypothyroidism) หากคุณมีอาการหิวที่เกิดจากภาวะเหล่านี้ ขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรค
ประโยชน์ของการเคี้ยวทุกช่วงเวลา
เอ็กซ์ เคี้ยว 30 ครั้ง ช่วยให้เหงือกแข็งแรง สงบ และลดอาการหงุดหงิด เคี้ยวให้ครบ 50 ครั้ง นอกจากจะช่วยลดอาการทางอารมณ์ของเราแล้ว นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ การเคี้ยวอาหาร 100 ครั้ง ช่วยให้เราวิเคราะห์และจัดการปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างใจเย็น อีกทั้งยังช่วยลดการบริโภคอาหารประเภทเนื้อสัตว์อีกด้วย อย่ากินมากเกินไปเช่นกัน เคี้ยว 200 ครั้ง ป้องกันปัญหากระเพาะอาหารเรื้อรัง และโรคแผลในกระเพาะอาหาร
กินผลไม้ทันที หลังอาหาร การย่อยจะใช้เวลา 4 ชั่วโมงเมื่ออาหารตกลงไปในกระเพาะ และในช่วงเวลานี้ หากเรากินผลไม้เข้าไปก็อาจทำให้ อาหารที่ย่อยแล้วไม่สามารถเข้าสู่ลำไส้เล็กได้ นอกจากนี้เมื่ออาหาร และผลไม้ผสมกันในกระเพาะก็อาจทำให้เกิดการหมักที่ทำให้เกิดก๊าซได้ ทำให้ท้องอืด ตะคริว หรือรู้สึกไม่สบายท้อง
ติดดตามเรื่องสุขภาพได้ที่ : โรคต่างๆ การรักษาสุขภาพ
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม : ramahealthy