ทับทิมผลไม้มาประโยชน์
ทับทิมผลไม้มาประโยชน์

จากรายงานของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย น้ำทับทิมเป็นสุดยอดน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ
นพ.ณัฐพล ตั้งภูมิ สถาบันโภชนาการ ม.มหิดล อธิบายว่า น้ำทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก นอกจากนี้ น้ำทับทิมยังเป็นแหล่งวิตามินซี วิตามินบี 5 และโพแทสเซียมที่ดีอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าการดื่มน้ำทับทิมเป็นประจำสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ลดความดันโลหิต ต่อสู้กับการติดเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ลดความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเม็ดเลือดขาว เบาหวาน และลดการสร้างเม็ดสีใต้ผิวหนัง
อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำตาลของน้ำทับทิมในท้องตลาดอยู่ที่ 11-12% ซึ่งเป็นระดับที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นผู้ที่สนใจควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะไม่เกินพอดี
สิ่งสำคัญที่สุดคือควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และอาหารที่หลากหลายควบคู่กับการออกกำลังกายที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่ดี
มะเขือเทศอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารพฤกษเคมีหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เชื่อกันว่าอาจช่วยป้องกันหรือบรรเทาอาการต่าง ๆ เช่น ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หรือบรรเทาอาการหายใจลำบากที่เกิดจากโรคนี้ได้ โรคหัวใจและหลอดเลือด คอเลสเตอรอลสูง โรคระบบทางเดินอาหาร ความดันโลหิตสูง โรคเหงือกและช่องปาก ริดสีดวงทวาร โรคผิวหนัง ฯลฯ
ขณะนี้มีการวิจัยอย่างจำกัดเกี่ยวกับการใช้ทับทิมรูปแบบต่าง ๆ สำหรับอาการนี้ ดังนั้นประสิทธิภาพของทับทิมในการรักษาโรคจึงไม่เป็นที่แน่ชัด ต่อไปนี้คือตัวอย่างงานวิจัยเกี่ยวกับผลทับทิมกับโรคต่าง ๆ
โรคหลอดเลือดแดง ทับทิมเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น เอลาจีนแทนนิน (ellagitannin), แทนนิน (Tannin), แอนโทไซยานิน (anthocyanin) สารประกอบโพลีฟีนอล (Polypheno) มีความคิดที่จะยับยั้งการตอบสนองของสารต้านอนุมูลอิสระของไขมันเลว ลดการสร้างโฟมเซลล์ และลดการแข็งตัวของหลอดเลือด ดังนั้น จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดแข็งตัวได้
(ที่มีสารทำปฏิกิริยากรดทอริก (Tauric Acid Reactive Substances: TBARS) 610 มก.) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เปรียบเทียบกับผลก่อนการทดลอง พบว่ามีค่าลดลง การรับประทานผลทับทิมช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
นอกจากนี้ ในการศึกษาอื่นของผู้ป่วย atherosclerotic 15 รายที่รับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทับทิมเป็นเวลานานกว่า 1 ปี เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับประทานอาหารเสริม ระดับไขมันลดลงประมาณ 16% ในช่วง 3 ปีเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น ๆ เมื่อเทียบกับ แนะนำให้รับประทานทิมสกัดต่อเนื่องกันมากกว่า 3 ปี อาจมีบทบาทในการลดความเสี่ยงของหลอดเลือดแดงแข็ง แต่ยังจำเป็นต้องมีการศึกษาระยะยาวที่ใหญ่ขึ้น ดังนั้นจึงไม่สามารถระบุประสิทธิภาพของทับทิมและบทบาทในการรักษาหลอดเลือดได้อย่างชัดเจน
โรคเหงือกอักเสบทับทิมเป็นผลไม้ที่มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียอีกชนิดหนึ่ง จึงใช้เป็นทางเลือกในการรักษาโรคเหงือก เนื่องจากการรักษาทั่วไปบางอย่างไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะบรรเทาอาการของโรคหรือลดความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการใช้สารเคมีในการรักษาโรค
การทดลองทางคลินิกกับผู้ป่วยโรคเหงือกอักเสบเรื้อรังจำนวน 40 ราย ดูผลของเจลสกัดจากทับทิมเป็นเวลา 21 วัน โดยแต่ละกลุ่มใช้วิธีการรักษาที่แตกต่างกัน สารสกัดจากผลทับทิมร่วมกับการขจัดชั้นเชิงกลสำหรับโรคเหงือกอักเสบพบว่าดีขึ้นใน 7 วันแรกของการรักษาเมื่อเทียบกับกลุ่มทดลองที่เหลือ จึงอาจใช้เจลสารสกัดจากทับทิมเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากและการรักษามาตรฐานสำหรับผู้ป่วยโรคเหงือกอักเสบได้ในอนาคต
ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาอื่นที่ตรวจสอบประสิทธิภาพของน้ำยาบ้วนปากจากผลทับทิมเมื่อเทียบกับยาหลอกแบบเจลในผู้ป่วย 32 รายที่เป็นโรคเหงือกอักเสบ สารสกัดจากทับทิม 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 4 สัปดาห์มีความสัมพันธ์กับสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้นและปัญหาโรคเหงือกอักเสบน้อยลงเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าสารสกัดจากทับทิมอาจใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก เช่น ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก เพื่อช่วยป้องกันและบรรเทาอาการเหงือกอักเสบ
ป้องกันการก่อตัวของคราบพลัค สารสกัดจากผลทับทิมมีประสิทธิภาพในการลดคราบพลัค และนำไปสู่โรคในช่องปากอื่น ๆ ได้อีกมากมาย จากการทดลองให้อาสาสมัคร 30 คนที่มีสุขภาพช่องปากดีหยุดใช้น้ำยาบ้วนปากที่ใช้กันทั่วไป แต่ให้เปลี่ยนไปใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีสารสกัดจากผลทับทิม มีการใช้น้ำยาบ้วนปากคลอเฮกซิดีน (คลอเฮกซิดีน) และยาหลอกในแต่ละกลุ่ม ใช้น้ำยาบ้วนปากวันละสองครั้งเป็นเวลา 5 วัน ผลการวิจัยพบว่าอาสาสมัครที่ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีสารสกัดจากทับทิมมีอัตราการก่อตัวของคราบพลัคน้อยกว่ายาหลอกอย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็ใช้ได้ผลดีพอ ๆ กับน้ำยาบ้วนปากคลอเฮกซิดีน กล่าวได้ว่าสารสกัดจากผลทับทิมสามารถลดโอกาสในการเกิดคราบพลัคในช่องปากได้
ในขณะเดียวกัน การศึกษาอื่นชี้ให้เห็นว่าสารสกัดจากผลทับทิมอาจช่วยลดการสะสมของคราบพลัคได้ ในการทดลองนี้ ได้ทำการเก็บคราบหินปูนของอาสาสมัครสุขภาพดี 60 คน อายุระหว่าง 9-25 ปี ที่ได้รับการจัดฟันหลังจากไม่แปรงฟันเป็นเวลา 24 ชั่วโมง และเปรียบเทียบผลลัพธ์ก่อนและหลังใช้น้ำยาบ้วนปากบางชนิด รวมทั้งน้ำยาบ้วนปากผสมคลอเฮกซิดีนและยาหลอกพบว่าน้ำยาบ้วนปากสกัดจากทับทิมมีประสิทธิภาพสูงสุดในการลดคราบพลัคประมาณ 84% รองลงมาคือน้ำยาบ้วนปากคลอเฮกซิดีนและยาหลอกที่ 79% จึงกล่าวได้ว่าสารสกัดจากผลทับทิมมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและเป็นทางเลือกหนึ่งในการกำจัดคราบพลัค จากข้อมูลข้างต้น การติดตามผลระยะยาวยังคงใช้สารสกัดจากผลทับทิมเนื่องจากระยะเวลาการทดลองค่อนข้างสั้น
ติดดตามเรื่องสุขภาพได้ที่ : เคล็ดลับสุขภาพดี
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม : ramahealthy