น้ำเต้าหู้
น้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลือง คือ เครื่องดื่มที่ทำมาจากถั่วเหลือง ด้วยการนำถั่วเหลืองมาบดปั่นกับน้ำเปล่าแล้วคั้นกรองเอากากทิ้งไป อาจปรุงรสเพิ่มเติมด้วยการใส่เกลือหรือน้ำตาลลงไปด้วย
น้ำเต้าหู้มีโปรตีนจากถั่วเหลือง มีเส้นใยธรรมชาติที่ดีต่อระบบขับถ่าย และมีส่วนประกอบที่สำคัญ คือ สารไอโซฟลาโวน หลังจากบริโภคน้ำเต้าหู้ ร่างกายจะเปลี่ยนสารเคมีชนิดนี้ให้เป็นสารไฟโตรเอสโตรเจน ที่มีโครงสร้างใกล้เคียงกับเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่มีผลต่อการทำงานของระบบสืบพันธุ์ และภาวะต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนชนิดนี้ ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์จึงคาดว่าส่วนประกอบต่าง ๆ ในน้ำเต้าหู้รวมทั้งสารไอโซฟลาโวนอาจส่งผลดีต่อสุขภาพ และอาจส่งผลทางการรักษาอาการป่วยบางประการได้
ด้วยเหตุนี้ จึงมีการค้นคว้าทดลองมากมายถึงคุณประโยชน์ของน้ำเต้าหู้ เพื่อศึกษาว่าน้ำเต้าหู้เป็นเครื่องดื่มที่มีคุณค่าทางโภชนาการหลากหลายหรือไม่ หรือเป็นเพียงสมมติฐานทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์เท่านั้น
สารอาหารที่ได้จากน้ำเต้าหู้
ถั่วเหลืองมีโปรตีนสูง ถั่วเหลืองจึงเป็นแหล่งโปรตีนสำหรับผู้ที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ เพราะถั่วเหลืองมีคุณค่าทางโภชนาการใกล้เคียงกับโปรตีนจากสัตว์ ถ้าเราบริโภคถั่วเหลืองในปริมาณที่สูงพอ ร่างกายจะได้รับโปรตีนเพียงพอกับความต้องการได้
นอกจากถั่วเหลืองเป็นแหล่งไขมันและโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ในถั่วเหลืองยังอุดมไปด้วยสารอาหารอีกมากมาย คือ คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามิน A, B, B1, B2, B6, B12, ไนอาซิน และวิตามิน C, D, E อีกด้วย ในเมล็ดถั่วเหลืองนั้นยังมี เลซิทิน ช่วยบำรุงสมอง เพิ่มทักษะความจำ ลดไขมัน และลดโคเลสเตอรอลในร่างกายได้อีกด้วย
การดื่มนมถั่วเหลืองจะได้รับประโยชน์กว่าเครื่องดื่มอื่นๆ ถ้าเทียบกับนมแล้วนมถั่วเหลืองจะมีข้อดีกว่า แม้บางอย่างจะสู้นมไม่ได้ แต่นมถั่วเหลืองให้โปรตีนเกือบเท่านม มีไขมันที่ดีกว่าคือให้กรดไขมันไม่อิ่มตัวมากกว่านม ช่วยลดโคเลสเตอรอล สำหรับข้อเสียคือ นมถั่วเหลืองจะให้แคลเซียมได้น้อยมาก
ดังนั้นการดื่มนมถั่วเหลืองในแต่ละวัน ถ้าเป็นนมถั่วเหลืองชนิดธรรมดาที่ไม่ได้มีการเสริมแคลเซียมเข้าไปนั้น แนะนำให้ดื่มเป็นอาหารเสริมวันละ 1-2 แก้ว เพราะนมถั่วเหลืองชนิดธรรมดา มีแคลเซียมไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จึงควรรับประทานอาหารอื่นที่มีแคลเซียมควบคู่กันไปด้วย
ปริมาณน้ำเต้าหู้ที่ควรบริโภคในแต่ละวัน
โดยปกติแล้วอาหารจากถั่วเหลืองนั้นแปรรูปไปเป็นเมนูอื่น ๆ เช่น เต้าหู้ เต้าเจี้ยว เป็นต้น ในหนึ่งวันอาจรับประทานเมนูจากถั่วเหลืองมากกว่าแค่การดื่มน้ำเต้าหู้ จากสถาบันวิจัยมะเร็งสหรัฐอเมริกา American Institute for Cancer Research (AICR) แนะนำว่า เฉลี่ยแล้วสามารถดื่มน้ำเต้าหู้ได้ประมาณวันละ 2 แก้ว ดังนั้น หากในหนึ่งวัน รับประทานเมนูผัดเต้าหู้ไปแล้ว อาจดื่มน้ำเต้าหู้ได้ 1 แก้ว แต่หากดื่มมากกว่านั้นเป็น 2 แก้วก็ยังถือว่าไม่ได้บริโภคน้ำเต้าหู้มากเกินไป ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย
ประโยชน์ของน้ำเต้าหู้
- ช่วยลดน้ำหนักได้
เพราะน้ำเต้าหู้มีน้ำตาลน้อยกว่านมเกือบเท่าตัว เทียบได้ง่ายๆเลยในนม 1 ถ้วยนั้น มีน้ำตาล 12 กรัมในขณะน้ำเต้าหู้ในปริมาณที่เท่ากันมีน้ำตาลอยู่แค่ 7 กรัมเท่านั้น และน้ำเต้าหู้หนึ่งแก้วประกอบไปด้วยแคลอรีเพียงแค่ 80 กิโลแคลอรี่แต่อย่าเผลอใส่น้ำตาลหรือเครื่องเคียงที่นอกเหนือจากธัชพืชล่ะ หรือถ้าหากอยากได้ความสดชื่นแนะนำให้ใส่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นอีก
- เสริมสร้างหลอดเลือด
การบริโภคน้ำเต้าหู้ประโยชน์มากปกป้องเส้นเลือด เพราะมีโอเมก้า 3 และ โอเมก้า 6 เยอะมาก มาช่วยป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ (phyto-antioxidants) และช่วยเสริมสร้างหลอดเลือดที่แข็งแรงด้วยการเชื่อมต่อหลอดเลือดที่ถูกทำลายนั้นเข้าด้วยกัน ในที่สุดจะทำให้หลอดเลือดทำงานได้เหมาะสมทั้งในการยืดหยุ่นและการไหลเวียนของเลือด
- กระดูกแข็งแรงลดการเกิดโรคกระดูกพรุน
เนื่องจากอายุที่มากขึ้นทำให้ฮอร์โมนของร่างกายที่เปลี่ยนแปลงเซลล์ต่างๆ ในร่างกายเสื่อม ถั่วเหลืองและนมถั่วเหลือง มีส่วนผสมของไฟโตอีสโตรเจน ที่ช่วยในการซึบซับแคลเชียมเข้าสู่ร่างกายและเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก โดยเฉพาะน้ำเต้าหู้ประโยชน์คือมีสารอาหารเพิ่มเติม เช่น วิตามินดีและแคลเซียมจะช่วยได้อย่างมาก
- ช่วยให้สุขภาพจิตดี
หากเกิดความเครียด เป็นโรคซึมเศร้า หรือมีอาการอื่นๆที่ส่งผลต่อสุขภาพจิต กระทบต่อจิตใจและการใช้ชีวิต เราอยากแนะนำให้หันมาดื่มน้ำเต้าหู้ประโยชน์ที่มีต่อสุขภาพกันมากขึ้นเพราะประกอบไปด้วยสารอาหารรอง (micronutrients) ที่เป็นกลุ่มสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพโดยรวมของผู้หญิง ประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินดี วิตามินบี และแมกนีเซียม
- ดื่มแทนนมจากสัตว์
นมถั่วเหลืองก็เป็นทางออกสำหรับคนแพ้นมวัว เพราะบางคนนั้นแพ้น้ำตาลแลคโตสในนมวัว แต่น้ำเต้าหู้ประโยชน์นั้นคือ ไม่มีน้ำตาลตัวนี้เป็นส่วนประกอบ
- แก้ปัญหาท้องผูก
นมถั่วเหลือง มีไฟเบอร์ที่เพียงพอที่จะกระตุ้นการขับถ่ายในร่างกาย โดยผู้ที่ท้องผูกควรดื่มนมถั่วเหลืองในตอนเช้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนตัวของกากอาหารในลำไส้
สามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ : ramahealthy
