ramahealthy

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ภัยร้ายใกล้ตัว รู้เร็วก็รักษาได้

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ถือเป็นภัยร้ายที่ใกล้จะเกิดขึ้นอย่างยิ่ง เป็นมะเร็งที่พบบ่อยในคนไทย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า มะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นมะเร็งที่พบบ่อยในคนไทย พบในอันดับที่ 5 ในผู้ชาย และอันดับที่ 9 ในผู้หญิง ตรวจพบได้ทุกช่วงวัย ขึ้นอยู่กับชนิด พบได้ประมาณ 5,600 คนต่อปี

 

มะเร็งที่เกิดขึ้นที่ต่อมน้ำเหลืองสามารถเกิดได้ทุกที่ในร่างกาย ตั้งแต่รักแร้ คอ ขาหนีบ ข้อต่อ หน้าอกและหน้าท้อง นอกจากนี้เซลล์น้ำเหลืองยังพบได้ในอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย อาจทำให้เกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองโดยทั่วไปได้ เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำไส้ มะเร็งต่อมน้ำเหลืองในสมอง ฯลฯ

 

นพ. ศศินิภา ตรีธิเพ็ญ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเลือด สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า ต่อมน้ำเหลืองมีรูปร่างคล้ายถั่วเมล็ดเล็กๆ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร ภายในต่อมจะมีเม็ดเลือดขาวจำนวนมาก หลายร้อยต่อมสามารถพบได้ทั่วร่างกาย ทำงานเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน ต่อสู้ และปกป้องร่างกายจากสารแปลกปลอม

 

ค้นหาอย่างรวดเร็วและรักษา

โดยรวมแล้ว มะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นมะเร็งที่มีการพยากรณ์โรคที่ดี หากได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยมากกว่าครึ่งสามารถหายขาดและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

 

มะเร็งต่อมน้ำเหลืองของ Hodgkin ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีต่อมน้ำเหลืองที่คอและหน้าอกโต รักษาด้วยเคมีบำบัดร่วมกับการฉายรังสี มีโอกาสฟื้นตัวได้ดี

มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Non-Hodgkin เป็นเรื่องธรรมดามาก และสามารถแบ่งได้อีกประมาณ 30 ชนิด

 

จำแนกประเภทของเนื้องอกมะเร็งต่อมน้ำเหลือง


แบ่งตามลักษณะการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งออกเป็น 2 ประเภท คือ มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดลุกลาม (Aggressive lymphoma) แบ่งตัวและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว มีอาการรุนแรง จึงตอบสนองต่อยาเคมีบำบัดที่ทำหน้าที่แบ่งเซลล์มะเร็งได้ค่อนข้างดี กลุ่มนี้ควรได้รับการรักษาทันที หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ภายใน 6 เดือนถึง 2 ปี แต่หากได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก็มีโอกาสหายดีไม่ว่าจะระยะใดก็ตาม มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดไม่รุนแรงจะแบ่งตัวและแพร่กระจายอย่างช้าๆ อาการจะค่อยๆ ไม่รุนแรง แต่เรื้อรัง กลุ่มนี้ไม่ค่อยหายขาดด้วยเคมีบำบัดที่มีอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้นจึงควรได้รับการรักษาตามที่ระบุไว้ และติดตามอาการเป็นระยะ ๆ

 

สาเหตุของมะเร็งคือการกลายพันธุ์ของเม็ดเลือดขาว ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ได้แก่ การติดเชื้อไวรัส เช่น HIV, HCV, EBV, การติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะเรื้อรัง พันธุกรรม ความต้านทานต่อยาต่ำ สารเคมีที่มีสารก่อมะเร็ง เช่น ยาฆ่าแมลง เป็นต้น

 

การรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง

การรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองในปัจจุบัน ส่วนใหญ่รักษาด้วยเคมีบำบัดร่วมกับยาเป้าหมาย ในบางกรณีการฉายรังสีและการปลูกถ่ายไขกระดูกในกรณีที่เป็นซ้ำ นอกจากนี้ ยังมีวิธีการรักษาแบบใหม่คือเซลล์บำบัด (CAR-T cells) ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยของประเทศไทย

 

สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับเคมีบำบัด การติดเชื้อสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายและจริงจังเนื่องจากภูมิคุ้มกันลดลง แนะนำให้รับประทานอาหารที่ปรุงสดใหม่ และสะอาด จากอาหารทั้ง 5 หมู่ และเลือกผลไม้ที่มีเปลือกหนา เลี่ยงสถานที่สาธารณะที่แออัด เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ออกกำลังกายนอนหลับอย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงการถูกชนกระทบกระแทก เนื่องจากมีจำนวนเกล็ดเลือดต่ำในระหว่างเคมีบำบัด ซึ่งทำให้เลือดออกง่าย

 

เพื่อป้องกันมะเร็งต่อมน้ำเหลือง คุณสามารถทำได้โดยการติดตามตัวเองเป็นประจำ ตรวจสุขภาพประจำปี หากป่วยรีบเข้ารับการรักษา หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีโดยตรง และรักษาสุขภาพกายที่ดี

 

 ติดดตามเรื่องสุขภาพได้ที่ : เรื่องโรค รอบตัวน่ารู้

 ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม : ramahealthy

ติดต่อสอบถาม และ เข้าร่วมกิจกรรม ได้ที่ LINE : @UFA656

โปรดยืนยันว่าคุณบรรลุข้อกำหนดด้านอายุตามกฎหมาย (18 ปีขึ้นไป) เพื่อดำเนินการต่อ