วิจัยมะเร็งระยะเริ่มแรก
วิจัยมะเร็งระยะเริ่มแรก
การส่งเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันมะเร็งระยะเริ่มแรก
มะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ทั่วโลก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี องค์การอนามัยโลกพบว่าในปีนี้ ในปี 2561 มีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ 18.1 ล้านราย เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง 9.6 ล้านคน มะเร็ง 5 ชนิดที่พบบ่อยที่สุดอันดับ 1 ของโลก ได้แก่ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้ในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งกระเพาะอาหารพบผู้ป่วยรายใหม่ 18.1 ล้านราย ตรวจพบมะเร็งปอด 2.1 ล้านรายมะเร็งเต้านม 2.1 ล้านราย มะเร็งลำไส้ใหญ่ 1.8 ล้านราย มะเร็งมะเร็งต่อมลูกหมาก 1.3 ล้านเคส มะเร็งกระเพาะอาหาร 1 ล้านเคสส่วนผู้เสียชีวิตมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งถึง 9.6 ล้านคน มะเร็งปอด 1.8 ล้าน มะเร็งลำไส้ 0.881 ล้าน มะเร็งกระเพาะอาหาร อาหาร 783,000 มะเร็งตับ 782,000 มะเร็งเต้านม 627,000 คน สถิติมะเร็งไทยของสถาบันปี 2557 มีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ในประเทศ 122,757 ราย
มะเร็งระยะเริ่มแรกมีจำนวนเพิ่มขึ้นในคนหนุ่มสาว พร้อมด้วยสารก่อมะเร็งหลัก 3 ชนิดในยุคปัจจุบัน
มะเร็งเป็นหนึ่งในโรคที่อันตรายที่สุดในโลก อายุที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยก่อให้เกิดมะเร็งที่มนุษย์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพราะระบบต่าง ๆ ของร่างกายจะเสื่อมลง ที่จริงแล้วร่างกายมนุษย์มียีนและระบบที่ช่วยต่อสู้กับมะเร็งโดยการแก้ไขเซลล์ที่ผิดปกติให้กลับมาเป็นปกติ อย่างไรก็ตามฟังก์ชันนี้ก็เสื่อมลงตามอายุเช่นกัน แม้แต่วิทยาศาสตร์การแพทย์ในปัจจุบันก็ยังค้นพบวิธีชะลอการเกิดมะเร็งได้ เช่น การรับประทานผักและผลไม้ที่มีประโยชน์
ไปฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโรคหรือออกกำลังกายแต่ทำได้ช้าเท่านั้นแต่ไม่ได้หมายความว่าสิ่งเหล่านี้จะไร้ประโยชน์ ในยุคก่อน ๆ อายุ 50 ปีเป็นจุดเริ่มต้นของการตรวจคัดกรองมะเร็งสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา แพทย์และนักวิจัยพบว่าการตรวจพบเซลล์มะเร็งในคนอายุ 14-49 ปี มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น มากกว่าเดิมถึงร้อยละ 79 และไม่ใช่แค่การเพิ่มจำนวนการตรวจจับเท่านั้น จำนวนผู้เสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นด้วย
ปัญหานี้อาจพิจารณาได้หลายวิธี
อย่างไรก็ตาม หากมองให้ละเอียด ซึ่งพบปัญหานี้อาจพิจารณาได้หลายวิธีนั้นเอง เพราะวิทยาศาสตร์การแพทย์ในปัจจุบันทั้งในด้านความรู้และอุปกรณ์ในการคัดกรองและแม้แต่การตรวจหามะเร็งก็มีความก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดซึ่งจำนวนที่เพิ่มขึ้นอาจเนื่องมาจากความก้าวหน้าในการตรวจพบผู้ป่วยเหล่านี้ ในขณะเดียวกันชุดข้อมูลไม่ได้คำนึงถึงอัตราและสัดส่วนการเติบโตของประชากร อย่างไรก็ตาม แพทย์และนักวิจัยยังคงเชื่อว่าจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตหรือการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนเมื่อเวลาผ่านไป อาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์รับบทเป็นอดัม ชายวัย 27 ปีที่อยู่ในช่วงจุดสูงสุดของชีวิตก่อนที่จะพบว่าเขาเป็นมะเร็งในสภาพ 50/50 ในประเทศใหญ่ ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา มีการดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อตรวจพบมะเร็งบางชนิดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งการตรวจคัดกรองมักจะเริ่มเมื่ออายุ 50 ปี โดยปรับ 40 ปี นอกจากนี้สถาบันและหน่วยงานด้านสุขภาพบางแห่งเริ่มเรียกร้องและรณรงค์ให้มีการตรวจคัดกรองมะเร็งบางชนิดตั้งแต่เนิ่น ๆ เช่น การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในสตรีอายุ 50 ถึง 45 ปี
ความก้าวหน้าครั้งใหม่ในการปลูกถ่ายไตหมูดัดแปลงพันธุกรรมสู่มนุษย์
ข้อมูลที่น่าสนใจอื่น ๆ คือ อัตราการเติบโตและความเจริญดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับอุบัติการณ์ที่เพิ่มขึ้นและการตรวจพบมะเร็งในระยะเริ่มแรก สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศและภูมิภาคที่มีจำนวนการวินิจฉัยโรคมะเร็งในระยะเริ่มแรกตามอายุมากที่สุดในโลก นี่อาจเป็นเพราะสารก่อมะเร็ง ควบคู่ไปกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการตรวจคัดกรองมะเร็ง อย่างไรก็ตาม แม้เพียงดูเผิน ๆ ข้อมูลก็ชี้ให้เห็นว่าในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นเนื่องจากการตรวจพบมะเร็งในระยะเริ่มแรก
แต่หากเปรียบเทียบ จำนวนและเปอร์เซ็นต์การเสียชีวิตของคนอายุต่ำกว่า 50 ปี ลดลง ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดเรื่องมะเร็งที่หลายคนคุ้นเคยที่ว่า มะเร็งตรวจพบได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และสามารถรักษาให้หายขาดได้ แพทย์ปัจจุบันไม่สามารถรักษาเขาได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีมะเร็งประเภทอื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ การป้องกันมะเร็งเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตมนุษย์ ก็ไม่ต่างจากการทำงานหนักเพื่อหาเงิน การดื่มน้ำเมื่อหิวหรือขับรถเลย เป็นเพียงว่า คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นเรื่องไกลตัว
