เนยถั่ว

เนยถั่ว เป็นอาหารหรือสเปรดที่ทำจากถั่วลิสงคั่วบดแห้ง โดยทั่วไปประกอบด้วยส่วนผสมเพิ่มเติมที่ปรับเปลี่ยนรสชาติหรือเนื้อสัมผัส เช่น เกลือ สารให้ความหวาน หรืออิมัลซิไฟเออร์ บริโภคในหลายประเทศ เป็นเนยถั่ว ที่ใช้บ่อยที่สุด กลุ่มที่รวมถึงเนยเม็ดมะม่วงหิมพานต์และเนยอัลมอนด์ ด้วย แม้ว่าถั่วลิสงจะไม่ใช่ถั่ว แต่เนยถั่วถือเป็นเนยถั่วในการทำอาหาร เนยถั่วเป็น อาหารที่อุดมด้วย สารอาหารประกอบด้วยโปรตีนในระดับสูงวิตามินหลายชนิดและแร่ธาตุอาหาร โดยทั่วไปจะใช้เป็นทาขนมปัง ขนมปังปิ้ง หรือแครกเกอร์ และใช้ทำแซนด์วิช โดยเฉพาะอย่างยิ่งแซนด์วิชเนยถั่วและเยลลี่ นอกจากนี้ยัง ใช้ในอาหารเช้าและของหวานหลายชนิดเช่นกราโนล่าสมูทตี้เค รป คุกกี้บราวนี่หรือครัวซองต์
ประโยชน์ของเนยถั่ว
อุดมด้วยไขมันดี
แม้ว่าเนยถั่วจะเป็นอาหารที่มีไขมันสูง แต่เป็นไขมันชนิดไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ซึ่งมีประโยชน์ในการช่วยเพิ่มระดับไขมันตัว ลดระดับไขมันตัวร้าย ลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ ช่วยให้ร่างกายนำน้ำตาลกลูโคสไปใช้ได้ดีขึ้น และช่วยลดภาวะดื้ออินซูลินในผู้เป็นเบาหวาน
โพแทสเซียมสูง
โพแทสเซียมเป็นสารอาหารที่ช่วยรักษาสมดุลของเหลวในร่างกาย ซึ่งจะช่วยรักษาระดับความดันโลหิตให้เป็นปกติ แถมยังดีกับสุขภาพหัวใจอีกด้วย ในเนยถั่ว 100 กรัม มีโพแทสเซียมถึง 70 มิลลิกรัม
ช่วยลดน้ำหนัก
ถึงแม้ว่าเนยถั่วจะมีแคลอรีสูง แต่ก็สามารถช่วยลดน้ำหนักได้หากรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ โดย 1 หน่วยบริโภคของเนยถั่ว (ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ) มีปริมาณไฟเบอร์ 2 กรัม โปรตีน 7.68 กรัม ซึ่งจะทำให้คุณอิ่มได้นานขึ้น ลดความอยากอาหารระหว่างวันได้
แหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยม
เนยถั่วอุดมไปด้วยโปรตีน ซึ่งมีความสำคัญต่อการเสริมสร้าง และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มกระบวนการเผาผลาญอีกด้วย แต่ทั้งนี้หากอยากได้ประโยชน์จากกรดอะมิโนในโปรตีนที่อยู่ในเนยถั่วอย่างเต็มที่ จะต้องทานเนยถั่วคู่กับอาหารอื่น ๆ ด้วย อย่างเช่น รับประทานกับขนมปังโฮลวีท เสริมด้วยการดื่มนม รับรองว่าร่างกายได้รับโปรตีนครบถ้วนแน่นอน
ไฟเบอร์สูง
สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย การรับประทานเนยถั่วก็ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีไม่น้อย เนื่องจากเนยถั่วอุดมด้วยไฟเบอร์ ที่มีความสำคัญต่อระบบขับถ่าย และยังช่วยแก้ปัญหาท้องผูก หรือลำไส้แปรปรวนได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้ถ้าอยากให้ได้ประโยชน์มากขึ้นละก็ ลองรับประทานคู่กับขนมปังโฮลวีท หรือแอปเปิล จะยิ่งทำให้ได้ไฟเบอร์มากขึ้นไปอีก
ป้องกันโรคมะเร็ง
วิตามินอีที่อยู่ในเนยถั่วก็ไม่ได้มีดีแค่ช่วยบำรุงสายตาและสมองเท่านั้น แต่ยังลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้อีกหลายชนิด เช่น มะเร็งในช่องท้อง มะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด และมะเร็งตับ รวมทั้งสามารถต่อสู่กับเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ลดความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2
ถั่วลิสงและเนยถั่วที่เป็นของโปรดของใครหลาย ๆ คนนี้ ส่งผลดีโดยตรงกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยจากการศึกษาซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร the Journal of The American Medical Association พบว่าการรับประทานเนยถั่ววันละ 2 ช้อนโต๊ะ ติดต่อกันอย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ สามารถลดความเสี่ยงโรคเบาหวานได้เกือบ 30% ไม่เพียงเท่านั้น สำหรับคนที่เป็นเบาหวาน การรับประทานเนยถั่วก็จะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง แต่ก็ต้องเลือกทานเนยถั่วที่ไม่มีน้ำตาลนะ ไม่อย่างนั้นจะยิ่งทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
ป้องกันโรคอัลไซเมอร์
ถั่วลิสงขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่มีวิตามินบี 3 หรือไนอะซินสูงมากที่สุด ซึ่งเจ้าวิตามินที่ว่านี้มีส่วนสำคัญอย่างมากในการบำรุงสมอง ป้องการเกิดโรคอัลไซเมอร์ และปัญหาเรื่องความจำต่าง ๆ เพราะวิตามินบี 3 จะเข้าไปช่วยซ่อมแซมเซลล์สมองที่ถูกทำลาย อีกทั้งกรดพี-คูมาริก (P-coumaric) ยังช่วยป้องกันปฏิกิริยาออกซิเดชันของเซลล์ อันเป็นสาเหตุของภาวะเสื่อมสภาพของระบบประสาทได้อีกด้วย
อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามิน
เนื่องจากในเนยถั่วมีแร่ธาตุและวิตามินหลายชนิด ได้แก่ วิตามินอี ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายได้ดีในไขมัน ช่วยป้องกันการแตกของเม็ดเลือดแดง ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดและการอุดตันของเส้นเลือด และวิตามินบี 3 (Niacin) ช่วยเพิ่มระดับไขมันตัวดี (เอชดีแอล – คอเลสเตอรอล) ลดระดับไขมันตัวร้าย (แอลดีแอล – คอเลสเตอรอล) ลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ ช่วยในการสังเคราะห์ฮอร์โมนเพศ เช่นเดียวกับคอร์ติซอล ไทรอกซิน และอินซูลิน มีความจำเป็นต่อสุขภาพ ระบบประสาทและการทำงานของสมอง
อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
สารเรสเวอราทรอล (Resveratrol) เป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระอันทรงพลัง ที่นอกจากจะพบในองุ่นแดงและไวน์แดงแล้วก็ยังสามารถพบได้ในเนยถั่วอีกด้วย ซึ่งเจ้าสารที่ว่านี้มีความสามารถในการป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลายได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยลดความเสี่ยงโรคต่าง ๆ ที่เกิดจากสารอนุมูลอิสระ เช่น โรคหัวใจ โรคอัลไซเมอร์ การเสื่อมสภาพของระบบประสาท รวมทั้งการติดเชื้อต่าง ๆ อีกด้วย
ลดระดับคอเลสเตอรอล
ไขมันที่พบในเนยถั่วเป็นไขมันชนิดเดียวกันกับที่พบในน้ำมันมะกอกซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ รวมทั้งช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีอย่าง LDL และเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดที่ดีอย่าง HDL ได้
ป้องกันการเกิดนิ่ว
นิ่วเป็นหนึ่งในความเสี่ยงสุขภาพที่มักเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ อย่างเช่น ความอ้วน การรับประทานอาหาร การใช้ยาลดคอเลสเตอรอล หรือการใช้ยาคุมกำเนิด โดยจากการศึกษาซึ่งตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการอย่าง The American Journal of Clinical Nutrition พบว่าผู้หญิงที่รับประทานเนยถั่วเป็นประจำสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วได้ เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ค่อยรับประทานเนยถั่วหรือถั่วเปลือกแข็ง
เสริมสร้างกล้ามเนื้อ
เนยถั่วอุดมไปด้วยสังกะสี ซึ่งมีความจำเป็นต่อการเสริมสร้างฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนในเพศชาย อันเป็นฮอร์โมนที่มีความสำคัญในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ โดยมีการศึกษาพบว่าผู้ชายที่รับประทานไขมันไม่อิ่มตัว อย่างเช่นไขมันที่อยู่ในเนยถั่วเป็นประจำในปริมาณที่พอดีจะมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนที่สูงกว่าคนที่ไม่ได้รับประทานเนยถั่ว และทำให้ผู้ชายในกลุ่มที่รับประทานเนยถั่วสามารถสร้างกล้ามเนื้อได้ง่ายกว่านั่นเอง
เสริมสร้างสุขภาพหัวใจ
สำหรับใครที่กำลังมองหาอาหารที่ช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ ต้องบอกเลยว่าเนยถั่วนี่ล่ะเหมาะ เพราะในเนยถั่วอุดมไปด้วยกรดพี-คูมาริก ซึ่งเป็นกรดที่จะเข้าไปซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกทำลาย ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนี้เนยถั่วก็ยังอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวที่มีประโยชน์ต่อหัวใจโดยตรง เพราะช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจได้อีกด้วย
บำรุงกระดูกให้แข็งแรง
สารอาหารสำคัญที่จำเป็นต่อกระดูกอย่างแคลเซียมและแมกนีเซียม ในเนยถั่วก็มีอยู่ไม่ใช่น้อย ซึ่งนอกจากจะช่วยบำรุงสุขภาพกระดูกให้แข็งแรงแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกให้กับเด็กในวัยเจริญเติบโตและผู้สูงอายุที่กำลังอยู่ในภาวะสูญเสียมวลกระดูกตามวัยได้อีกด้วย