เมนูนี้จาก ‘ใบพริก’
เมนูนี้จาก ‘ใบพริก’

โดยปกติแล้วเมื่อพูดถึงพริกคนส่วนใหญ่จะนึกถึงแต่ผลที่ตามมาใช่ไหม? ไม่ว่าจะเป็นพริกตานก พริกชี้ฟ้า หรือพริกรูประฆัง วันนี้ KC Fresh มาที่นี่เพื่อบอกคุณว่าไม่ใช่แค่การกินผลพริกไทยเท่านั้น กินใบพริก และลักษณะของใบพริกคือสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย และไม่เผ็ดพอที่จะทำให้คุณเหงื่อออก
ว่ากันว่าใบพริกน่ารับประทาน ขับชี่ และบรรเทาอาการปวด ช่วยรักษาโรคไข้หวัด รักษาอาการปวดศีรษะและยังช่วยบรรเทาอาการคัน สามารถใช้รักษาบาดแผลใหม่และกลากได้ นอกจากนี้ยังรักษาอาการบวม ฟกช้ำ ปวดข้อ และเคล็ดขัดยอก วิธีการใช้งานจะแตกต่างกันไป ใช้ใบพริกบรรเทาอาการคันโดยบดใบให้เกือบเรียบแล้วทาบนแผลสดและกลาก วิธีทา ให้ทาเป็นชั้นบาง ๆ เป็นเวลา 10-15 นาที แล้วล้างออก
หากคุณต้องการใช้ใบพริกป่นเพื่อช่วยรักษาอาการบวม ฟกช้ำ อาการปวดข้อ และเคล็ดขัดยอก ให้บดใบพริกป่นให้ละเอียด แล้วผสมกับน้ำมะนาว 1 ผล หรือตวงจริง ๆ ให้เป็นครีมหยาบแล้วทาบริเวณที่บวม อาการบวมก็จะทุเลาลง
ตอนนี้ถ้าใช้แก้ปวดหัวก็แค่ใช้ใบพริกสด บดและผสมกับชอล์กละลายน้ำเล็กน้อย เมื่อเนื้อครีมเริ่มข้นเล็กน้อย ให้ทาบริเวณขมับ
เอาล่ะเราจะมาพูดถึงสรรพคุณทางยาของใบพริกกัน มาดูการใช้ใบพริกมาสร้างสรรค์เมนูกันบ้าง
“ใบพริกไทยทุกชนิด” ขอย้ำอีกครั้งว่าทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นใบพริกไทยตานก พริกหวาน พริกชี้ฟ้า ฯลฯ พบได้ในสวน สามารถปรุงในอาหารได้เกือบทุกชนิด เช่น แกง ผัดแป้ง ข้าวผัด ฯลฯ คุณค่าทางโภชนาการและคุณค่าทางยาของมันเพียงพอที่จะเรียกว่าเป็นผักและพืชสมุนไพร
ส่วนขั้นตอนการหุงก็ไม่ต่างจากการหุงข้าวผัดหรือแกงทั่ว ๆ ไป เคล็ดลับอยู่ที่การเลือกใบพริกหนุ่มถึงขนาดกลาง เด็ดเป็นใบ ล้างให้สะอาด แล้วเติมลงในแกงต่าง ๆ รวมทั้งพริกอ่อน แดง และแกง หรือแก่งเหลียงหรือมีไว้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในบรรดาผักต่าง ๆ ในเมนูข้าวผัด ก็มีไข่ดาวที่มีลักษณะคล้ายไข่ใบกะเพรา
แต่ที่ KC Fresh ผมลองแล้วชอบมาก แค่เอาใบพริกมาผสมกับแป้งบาง ๆ แล้วนำไปทอด กินเล่นก็สนุก อร่อยเหมือนน้ำสลัดเลย อย่างไรก็ตามลองเลือกเมนูอร่อยตามรสนิยมของคุณ
ใบพริกมีประโยชน์มากมาย ไม่รู้จักพริกได้ยังไง?
พริกเป็นที่รู้จักกันในชื่อพริกป่นหรือพริกในภาษาอังกฤษ คำนี้มาจากคำภาษาสเปนว่า “ชิลี” พริกสวนเรียกว่า “พริกนก” หรือ “พริก” พริกมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Capsicum annuum L. พริกจัดเป็นพืชชนิดเดียวกัน พริกมีชื่อเดียวและเรียกต่างกันไปตามที่ต่าง ๆ เช่น พริกแด พริกแต้ พริกนก พริกแจ่ว พริกน้ำเมี่ยง พริกเผ็ด ดีพลีขี้นก พริกขี้นก พริกขี้นก พริก มะคอม, ปะแก้ว, มราฐี, ดีพลี, ครี, ลั่วเจีย, ลาเจียว, มือสา, สีซู, มือสะโป ฯลฯ
พริกถูกนำมาใช้เพื่อศึกษาสารเคมีในพริก พบว่ามีสารสำคัญชนิดหนึ่งคือ แคปไซซิน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ให้ฤทธิ์เผ็ดร้อน นอกจากนี้พริกยังมีสารเคมีอื่น ๆ เช่น ไดไฮโดรแคปไซซิน นอร์ดิไฮโดรแคปไซซิน ไดไฮโดรแคปไซซินสูง และแคปไซซินสูง
ส่วนแคปไซซินซึ่งเป็นสารเคมีในพริกนั้นมีผลกระตุ้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มันให้ความรู้สึกตึงเครียด กระตุ้นน้ำมูกป้องกันการระคายเคือง รวมถึงกระตุ้นการหลั่งของน้ำย่อย
นักวิทยาศาสตร์ยังค้นพบด้วยว่าสารเคมีในพริกที่เรียกว่าแคโรทีนอยด์ มีคุณสมบัติต่อต้านมะเร็ง สำหรับแคโรทีนอยด์จะเป็นแคโรทีนรูปแบบหนึ่ง นักวิทยาศาสตร์ได้สกัดสารเหล่านี้มาทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ปัจจุบันเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยอดนิยม พริกมีสารเคมีสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งยังมีวิตามินซีสูงซึ่งช่วยบำรุงผิว แต่ถ้ากินมากเกินไปก็อาจทำให้ปวดท้องและอาจท้องเสียได้
ติดดตามเรื่องสุขภาพได้ที่ : เคล็ดลับสุขภาพดี
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม : ramahealthy