โรคปากนกกระจอกเทศ
โรคปากนกกระจอกเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย สร้างความรำคาญและความเจ็บปวดให้กับผู้ที่เป็นได้ โรคปากนกกระจอกเป็นโรคที่สามรารถเกิดซ้ำได้แต่โรคก็สามารถหายได้เองภายใน 7-10 วัน นอกจากนั้นวิธีต่างๆที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดของโรคปากนกกระจอกซึ่งอาจเป็นอีกทางเลือกในการรักษา คำแนะนำทางด้านล่างนี้คือวิธีรักษาอาการปากนกกระจอกเบื้องต้นที่สามารถรักษาได้เองพร้อมอธิบายถึงสาเหตุการเกิดโรค รวมถึงวิ ธีป้องกันและบรรเทาอาการของโรคปากนกกระจอกโรคปากนกกระจอกคือแผลบริเวณมุมปากด้านใดด้านหนึ่งหรือทั้งสองด้าน มีรอยแตกและแยกออกจากกันหากไม่รับการรักษาอาจทำให้อาการแย่ลงกว่าเดิมเช่น เป็นอุปสรรคต่อการรับประทานอาหารหรือการพูดคุย โรคปากนกกระจอกแม้จะไม่ใช่โรคติดต่อแต่ก็สามารถสร้างความเจ็บปวดและความวิตกกังวลให้กับผู้ที่เป็นได้
สาเหตุที่อาการปากนกกระจอกเกิดขึ้นที่มุมปากนั้นเป็นเพราะเชื้อแบคทีเรียภายในปากและน้ำลายก่อตัวที่มุม ปากกระตุ้นให้เกิดเชื้อราและการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียส่งผลให้เกิดอาการแห้งแตกที่มุมปาก แต่หากคุณมีสุขภาพพลามัยที่ดีคุณก็จะห่างไกลจากการเป็นโรคปากนกกระจอกได้เพราะปากนกกระจอกมักเกิดขึ้นเมื่อร่างกายอ่อนแอและมีภูมิต้านทานต่ำ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังได้อธิบายไว้ว่า โรคปากนกกระจอกนั้นสามารถเกิดจากการขาดวิตามินบี 2 ได้เช่นกัน
พบแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้น หากอาการของโรคปากนกกระจอกนั้นไม่ดีขึ้น คุณควรรีบไปพบแพทย์ทผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงที่ก่อให้เกิดโรคปากนกกระจอกเพื่อรับการรักษาที่ถูกวิธี ในการป้องกันโรคปากนกกระจอกนั้นสามารถทำได้ง่ายๆ โดยการเช็ดปากให้แห้งสนิทโดยเฉพาะที่บริเวณมุมปากเพื่อป้องกันการอับชื้น เมื่อทำความสะอาดปากและเช็ดให้แห้งสนิทดีแล้ว บำรุงริมฝีปากด้วยวาสลีน ปิโตรเลี่ยม เจลลี่ ที่มีประสิทธิภาพในการกักเก็บควมชุ่มชื่นของริมฝีปากทั้งนี้ ผู้ป่วยปากนกกระจอกสามารถเกิดการติดเชื้อราที่ผิวหนัง หรือเกิดแผลติดเชื้อแบคทีเรียลามไปยังผิวหนังรอบ ๆ บริเวณที่เกิดโรคปากนกกระจอกได้

ผู้ป่วยโรคปากนกกระจอกจะได้รับการตรวจจากแพทย์เพื่อวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคดังกล่าว โดยแพทย์จะตรวจปากของผู้ป่วย เพื่อดูว่ามีสะเก็ด รอยแดง อาการบวม หรือตุ่มพองที่ปากหรือไม่ รวมทั้งสอบถามอาการและพฤติกรรมของผู้ป่วยที่ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อและป่วยเป็นโรคปากนกกระจอกได้โรคปากนกกระจอกสามารถรักษาได้ โดยแพทย์จะรักษาบริเวณที่ติดเชื้อของโรค รวมทั้งดูแลบริเวณที่แห้งและแตกไม่ให้กลับมาติดเชื้ออีก ทั้งนี้ ผู้ป่วยจะได้รับยาเพื่อรักษาอาการตามประเภทของเชื้อที่ทำให้เกิดโรคดังกล่าว ซึ่งได้แก่ การรักษาด้วยยาต้านเชื้อรา การรักษาด้วยยาต้านแบคทีเรีย และการดูแลรักษาอื่น ๆ
ผลิตภัณฑ์บำรุงความชุ่มชื้น ผู้ป่วยปากนกกระจอกที่ไม่ได้ติดเชื้อจากเชื้อราหรือแบคทีเรีย จะได้รับผลิตภัณฑ์ทาปากเพื่อบำรุงความชุ่มชื้นให้ผิว โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีหลายลักษณะ ได้แก่ น้ำมัน โลชั่น ครีม และขี้ผึ้ง ผลิตภัณฑ์บำรุงความชุ่มชื้นจะช่วยบรรเทาอาการปากแห้งแตกและรักษาอาการระคายเคืองผิวหนัง
การติดเชื้อแบคทีเรีย โรคผื่นแพ้กรรมพันธุ์ ฯลฯ เป็นโรคที่พบได้ในทุกเพศทุกวัย แม้จะไม่มีอันตรายร้ายแรงและไม่ใช่โรคติดต่อ แต่ก็มักสร้างความรำคาญ ความวิตกกังวล และความเจ็บปวดให้กับผู้ป่วยได้เป็นอย่างมาก เพราะทำให้มีอุปสรรคต่อการรับประทานอาหารหรือการพูดคุย อีกทั้งโรคนี้ก็เป็นโรคที่สามารถเกิดซ้ำได้อีกถ้าแก้ปัญหาไม่ถูกจุด แต่รอยโรคก็มักหายไปได้เองภายใน 7-10 วัน
อาการของปากนกกระจอก ผู้ป่วยจะมีอาการเป็นแผลเปื่อย โดยแผลจะมีลักษณะแตกเป็นร่องที่มุมปากทั้ง 2 ข้าง ลักษณะเป็นสีเหลือง ๆ ขาว ๆ เริ่มแรกผู้ป่วยจะมีอาการปวดแสบร้อนที่ริมฝีปากและลิ้น ต่อมาจะมีรอยแผลแตกที่มุมปาก ทำให้ในขณะที่พูดหรืออ้าปากผู้ป่วยจะรู้สึกตึงและเจ็บ ถ้าใช้ลิ้นเลียบริเวณแผลก็จะยิ่งทำให้แผลแห้งและตึงมากขึ้น เมื่ออ้าปากอาจทำให้มีเลือดออกได้ (ในรายที่มีอาการรุนแรงจะมีเลือดออกด้วย และถ้าเป็นซ้ำซากเวลาหายแล้วจะกลายเป็นแผลเป็น)

ผิวหนังในบริเวณหู ตา จมูก อัณฑะ ปากช่องคลอด จะมีลักษณะเป็นมัน เป็นผื่นแดง และมีสะเก็ดเป็นมัน วิธีรักษาปากนกกระจอก ผู้ป่วยที่เป็นโรคปากนกกระจอกไม่จำเป็นต้องมีสาเหตุมาจากการขาดสารอาหารเสมอไป และการขาดสารอาหารนี้ก็เป็นสาเหตุการเกิดโรคที่พบได้น้อยมากในปัจจุบัน ฉะนั้น ผู้ป่วยควรหาสาเหตุของการเกิดโรคที่แท้จริงแล้วทำการรักษาที่ต้นเหตุ ซึ่งจะทำให้อาการดังกล่าวหายไปโดยไม่กลับมาเป็นซ้ำอีก แต่โดยทั่วไปแล้วแนวทางการดูแลรักษาตัวเองแพทย์จะแนะนำให้ปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้
เกิดการอักเสบและปวดเจ็บ ในกรณีแบบนี้ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ ดื่มน้ำให้มาก ๆ และงดการดื่มแอลกอฮอล์และชา เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้จะไปรบกวนการดูดซึมวิตามิน ควรเช็ดมุมปากให้แห้งอยู่ตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการอับชื้น (แนะนำให้พกผ้าเช็ดหน้าสะอาด ๆ ติดตัวไว้เสมอเพื่อใช้ซับน้ำลาย) เลิกเลียริมฝีปากและมุมปาก เพราะการทำเช่นนี้จะก่อให้เกิดการอักเสบของแผลและการติดเชื้อแบคทีเรียได้ ทำให้แผลไม่หายและอาจมีอาการแย่ลงกว่าเดิม หมั่นทำความสะอาดช่องปากด้วยการแปรงฟันและบ้วนปากให้สะอาดหลังการรับประทานอาหารอยู่เสมอ ควรรักษาความสะอาดของเครื่องนอน เช่น ผ้าห่ม ปลอกหมอน รวมไปถึงผ้าเช็ดหน้าที่ใช้เป็นประจำ ในกรณีที่ไม่ได้ใส่ฟัน ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น หากแผลที่มุมปากมีอาการเจ็บและตึง ให้ทาปากด้วยครีมทาปาก ปิโตรเลี่ยมเจลลี่
ติดตามข้อมูลได้ที่ : โรคต่างๆเกี่ยวกับสุขภาพ
สามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ : ramahealthy